ของเล่นไม้เสริมพัฒนาการ

3 ของเล่นไม้เสริมพัฒนาการ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้

เด็กกับของเล่นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแยกออกจากกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายจำเป็นจะต้องซื้อของเล่นให้กับคุณลูก แต่ว่าของเล่นประเภทใดที่ช่วยสร้างเสริมพัฒนาการและทักษะความคิดได้มากที่สุด นั่นคือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนอยากจะหาคำตอบ เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจึงอยากจะแนะนำ ของเล่นไม้เสริมพัฒนาการ รับรองว่าแต่ละประเภทที่เราได้มาแนะนำนี้ จะสร้างเสริมให้ลูกของคุณมีจินตนาการก้าวล้ำ และรู้จักวิธีใช้ความคิด พร้อมทั้งสร้างเสริมสมาธิได้ดีมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

ตัวต่อบล็อกไม้

ในเด็กวัยที่กำลังโตโดยเฉพาะเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป พวกเขาต้องการการพัฒนาในเรื่องของทักษะ ความคิด จินตนาการ การสร้างสรรค์ การเลือกตัวต่อบล็อกไม้เพื่อเป็นของเล่นไม้เสริมพัฒนาการของคุณลูก จึงดูจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอันดับต้นๆ เพื่อให้เขาสามารถแต่งแต้มจินตนาการของตัวเอง ต่อบล็อกไม้เป็นรูปร่างต่างๆ ที่ต้องการได้อย่างสนุกสนาน

เครื่องมือช่าง

ในช่วงที่อายุกำลัง 2 ขวบ หลายคนอาจจะเลือกของเล่นให้คุณลูกเป็นประเภท รถ ตุ๊กตา หรืออุปกรณ์กีฬา แต่คุณรู้หรือไม่ว่าของเล่นไม้เสริมพัฒนาการอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสร้างเสริมทักษะชีวิตได้มากที่สุด นั่นก็คืออุปกรณ์ช่างไม้ ซึ่งทุกอย่างจะถูกผลิตมาจากไม้ ทำให้ไม่มีอันตรายสำหรับเด็กอายุ 2 ขวบ ไม่ว่าจะเป็นตัวสกรูน๊อต ตัวค้อน หรือตัวประแจ เพื่อให้ลูกๆ ของคุณได้รู้จักอีกหนึ่งอาชีพที่ให้ความสนุกสนาน ช่วยบริหารร่างกาย กล้ามเนื้อ ฝึกสายตา และมือ รวมไปถึงการใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เกิดการพัฒนาทักษะของเด็กๆ ได้รวดเร็วมาก

บล็อกไม้เรขาคณิต

ของเล่นไม้เสริมพัฒนาการ บล็อกไม้เรขาคณิตคืออีกหนึ่งตัวเลือกที่เราเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนจะต้องเลือกซื้อให้กับลูกอย่างแน่นอน เพราะว่าเล่นได้ตั้งแต่อายุ 1 ขวบครึ่งขึ้นไปช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านทักษะเลขาคณิต และความคิดได้อย่างรวดเร็ว ตัวบล็อกไม้จะมีช่องต่างๆ เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม เพื่อให้นำชิ้นไม้ตามรูปแบบนั้นๆ ใส่เข้าไปตามช่องที่เหมาะสม ลูกๆ ของคุณจะได้เรียนรู้วิธีการคิดอย่างมีระบบ การคำนวณความน่าจะเป็น รวมไปถึงได้เรียนรู้ทักษะคณิตศาสตร์เบื้องต้นไปในตัว

ของเล่นไม้เสริมพัฒนาการ จะช่วยเพิ่มทักษะสมาธิและกล้ามเนื้อให้กับลูกๆ ของคุณได้อย่างสมวัยแน่นอน ที่สำคัญของเล่นเหล่านี้มีราคาไม่สูงมากนัก คุณสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในราคาเพียงแค่หลักร้อยเท่านั้น ด้วยความห่วงใยของคุณพ่อคุณแม่เป็นคนที่อยากจะเห็นลูกโตสมวัย  เพราะฉะนั้นควรเลือกของเล่นประเภทต่างๆ ให้ถูกต้องกับวัยของลูกของคุณ

รองเท้านวดเท้าจาก scholl

ความแตกต่างระหว่างรองเท้าทั่วไปกับรองเท้านวดเพื่อสุขภาพ

การนวดเท้าและกดจุดต่าง ๆ ตามฝ่าเท้าไม่เพียงแต่ช่วยผ่อนคลายความปวดเมื่อยและความเครียดเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาและฟื้นฟูระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายได้อีกด้วย 

โดยทั่วไปนั้นการนวดเท้าได้แบ่งเป็น 2 อย่างหลักๆคือ การนวดเท้าเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และการกดจุดที่เท้า โดยการกดจุดที่เท้าจะเป็นการกระตุ้นให้อวัยวะต่าง ๆ กลับมาทำงานตามปกติ เป็นการปรับสมดุลในร่างกายจากการกดจุด แต่หากใครก็ตามที่ไม่มีเวลาหรือเงินมากพอที่จะไปนวดตามร้านอยู่บ่อย ๆ เราขอเสนอให้คุณลองปรับเปลี่ยนรองเท้าที่คุณสวมใส่อยู่มาเป็นรองเท้านวดเพื่อสุขภาพ ซึ่งแม้จะไม่สามารถทดแทนได้กับการนวดฝ่าเท้าทั้งหมด แต่ก็ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ดีในระดันหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งความแตกต่างระหว่างรองเท้าทั่วไปกับรองเท้าเพื่อสุขภาพนั้นอาจนิยามได้กว้างๆดังนี้

รองเท้าทั่วไป

รองเท้าทั่วไปไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ รองเท้าคัชชู(Casual Shoes) หรือรองเท้าส้นสูง มักออกแบบให้เน้นสวยงามในการสวมใส่ แต่ไม่ได้คำนึงถึง “ศาสตร์ของสุขภาพเท้าเป็นหลัก” ถ้ารองเท้าที่มีปลายแหลมบีบนิ้วโป้งมากๆ หรือถ้าใส่รองเท้าที่แน่นจนบีบนิ้วก้อยมาเกินไปก็จะมีผลกระทบต่อการเป็นโรคที่เกี่ยวกับเท้า เช่นตาปลา เป็นต้น ซึ่งเป็นอาการที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและอารมณ์ หรือคนที่ใส่ส้นสูงมากๆบ่อยๆก็อาจมีปัญหาเรื่องโรครองช้ำ เอ็นร้อยหวายตึง คอแข็ง มึนศรีษะ และมีปัญหาเกี่ยวกับรอบเดือนได้ การเลือกรองเท้าที่ดีจึงมีผลต่อสุขภาพที่ดีเช่นกัน

รองเท้าเพื่อสุขภาพ

ปัจจุบันมีอยู่หลายประเภท ทั้งแบบรองเท้าแก้อาการที่เกิดจากเท้าแบน รองเท้าแก้อาการโรครองช้ำ แต่หนึ่งในประเภทรองเท้าเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมมากคือ รองเท้านวดเท้า โดยรองเท้าเพื่อสุขภาพประเภทนี้ ได้ถูกออกแบบมา เพื่อให้คนที่สวมใส่ได้ปรับสมดุลร่างกายผ่านปุ่มนวดหรือลอนลูกคลื่นบนแผ่นรองเท้า ซึ่งจะช่วยนวดได้ตรงจุดขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้อวัยวะภายในทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญสามารถนำมาใส่เดินในชีวิตประจำวันได้ เพียงแค่ใส่วันละ 15 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และบรรเทาอาการเมื่อยของกล้ามเนื้อต่าง ๆ

อย่างไรก็ตามข้อควรระวังในการนวดเท้าและการใช้รองเท้าเพื่อสุขภาพที่เป็นประเภทรองเท้านวดเท้าคือบุคคลที่มีแผลเปื่อยที่เท้า มีกระดูกหัก เท้าหัก ควรหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าเพื่อสุขภาพ จนกว่าจะหายดี เพราะปุ่มนวดที่พื้นรองเท้าด้านในอาจส่งผลต่อแผลที่เท้าได้ ซึ่งจะกลายเป็นผลเสียต่อเท้าของเรานั่นเอง 

และสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อรองเท้านวดเท้า ยี่ห้อไหนดี ผู้เขียนขอแนะนำ รองเท้านวดเท้าจาก scholl  เนื่องจากราคาไม่แพง คุณภาพดี แถมรองเท้ายังได้มาตรฐานสากล และเหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพเท้า อย่างแท้จริง

เรียกจิตคนรัก

วิธีการใช้คาถาเรียกจิตคนรักให้ได้ผลดีที่สุด

ความรัก ก็มีทั้งคนที่สมหวังและคนที่ผิดหวังบ้าง บางคนทั้งชีวิตยังไม่เคยเจอความรักที่ดีเลย แม้แต่คนที่คิดว่าใช่ที่สุด ก็ยังมีอันต้องทำให้พลัดพรากจากกัน คนที่ตัดใจได้ก็ดีไป เพราะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปรกติหรือจะหาใหม่ก็ได้ แต่สำหรับผู้ที่ตัดใจไม่ได้ ยังอาลัยอาวรณ์กับการจากลานั้นอยู่ เนื่องจากตัดใจจากเขาไม่ได้ ก็มักจะเป็นความทรมานใจอย่างมาก และต้องจมอยู่กับความเสียใจเหล่านั้นตลอด

สำหรับผู้ที่เจอเหตุการณ์ณ์นี้อยู่ สิ่งที่อาจจะช่วยให้คุณกับคนรักกลับมารักกันได้เหมือนเดิมนั้นก็พอจะมีวิธีอยู่บ้างเหมือนกัน นั่นก็คือการเรียกจิตคนรัก เป็นวิธีที่ใช้กันมานานหลายยุคหลายสมัยแล้ว และก็ได้ผลด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่ปฏิบัติ หากทำตามกฎและข้อห้ามของการทำ ก็มั่นใจได้ว่าคนรักของเราจะไม่จากไปอีก แถมยังทำให้คนรักกลับมารักกันมากกว่าเดิมด้วย

คาถาที่ใช้เรียกคนรัก

การทำให้คนรักกลับมาด้วยวิธีที่แนะนำนี้ จะต้องใช้คาถาเข้ามาช่วยด้วย แต่เป็นวิธีการที่ปลอดภัย ไม่ใช่คาถาของการทำแบบสายดำ อันนั้นอันตรายเกินไปไม่เหมาะ คาถาเรียกจิตคนรัก ที่นิยมใช้กันก็คือ

ตั้งนะโม 3 จบ

นามานังสะมาโล ยุตตัดโถ ยุตตัดถะ นากาโร โหติ

สัมภโว อนุปะทิฏฐานัง วุตตะโยคะโต นะธา นะธา

หิตังเทวัง นะระเท เอหิ ปูชิตัง นะรานัง กามะปังเกติ นะมามิสุคะชิตังฯ

สำหรับวิธีการก่อนที่จะท่องคาถานี้ก็คือ ให้เขียนชื่อคนรักของเราที่ต้องการอยากจะให้เขากลับคืนมาลงใยกระดาษเสียก่อน และขณะที่ภาวนาก็ให้นึกถึงหน้าคนนั้นด้วย

สิ่งที่จะช่วยให้คาถาเรียกคนรักได้ผล

การใช้คาถานี้ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ผลเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งคนที่ทำได้จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเสียก่อน ไม่เช่นกันการใช้คาถาเรียกจิตคนรัก จะไม่ได้ผล สิ่งที่ต้องทำก็คือ

1.ประพฤติตนให้อยู่ในศีล 5

หากคุณเป็นคนที่มักทำอะไรผิดศีลผิดทำธรรมอยู่เสมอ ไม่สนว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม เช่นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การดื่มสุรา ก็ควรเลิกนิสัยเหล่านี้ทั้งหมดก่อน

2.ไม่ยุ่งกับกับคนที่มีคู่แล้ว

การแย่งแฟนของคนอื่นก็คือการผิดศีลนั่นเอง ถ้าเขามีลูกเมียอยู่แล้ว ก็ยิ่งเป็นบาปหนักขึ้นไปอีก หากต้องการอยากจะให้การ เรียกจิตคนรัก ได้ผล ข้อนี้สำคัญมากที่สุด

3.หมั่นทำบุญทำทาน

การหมั่นทำบุญทำทานจะช่วยให้อานิสงค์เหล่านั้นบันดาลให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ทำพิธีนี้อยู่ และจะช่วยให้คนรักกลับมาเร็วขึ้น หรือถ้าเป็นคนที่โสดก็จะช่วยให้เจอคนรักที่เป็นเนื้อคู่แท้ๆ

เราก็รู้แล้วว่าการเรียกจิตคนรัก จะต้องทำอย่างไรบ้าง ดังนั้นก่อนที่จะทำก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ให้ได้ก่อน หลังจากนั้นก็ภาวนาคาถาไปด้วยทุกวัน จะช่วยทำให้เห็นผลเร็วยิ่งขึ้น เพียงแค่นี้คุณก็จะสมหวังกับรักครั้งใหม่ได้แล้ว

ศิลปะ

ศิลปะเป็นเรื่องที่หลายๆคนควรให้ความสนใจ

ในปัจจุบันนี้เรื่องของศิลปะนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากที่สุดเลย เพราะว่าศิลปะนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สวยงาม หลายๆคนก็ชอบศิลปะด้วยกันทั้งนั้นเพราะว่าศิลปะนั้นจะสามารถทำเงินให้กับเราได้อย่างดีมากเลยทีเดียว ในเรื่องของศิลปะเราสามารถที่จะต่อยอดทำเป็นธุรกิจทางด้านศิลปะได้ไม่มากและก็ไม่น้อยอีกด้วย

               บางคนมองว่าศิลปะในสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเราเองไม่ควรที่จะมองข้ามผ่าน ควรที่จะให้ความสนใจให้มากๆกับเรื่องของศิลปะยิ่งเราใส่ใจในเรื่องของศิลปะมากเท่าไหร่ก็จะทำให้เรานั้นมีประสบการณ์ในการวาดภาพหรือมีผลงานที่มากมายออกมาอีกด้วย

               ในตอนนี้เริ่มมีคนเห็นถึงความสนใจทางด้านศิลปะแล้วเปิดโอกาสให้ศิลปะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญสำหรับหลายๆคน รูปศิลปะที่เราวาดๆกันเชื่อไหมว่าหากมีฝีมือสามารถที่จะไปขายเพื่อมาเป็นทุนในการต่อยอดการซื้อของมาทำศิลปะต่อก็เป็นได้ ทุกอย่างเป็นเรื่องที่เราเองไม่ควรที่จะมองข้ามต้องให้ความสนใจอย่างมากเลยถึงจะดีอย่างยิ่งในเรื่องของสมาธิ

               เรื่องของศิลปะเมื่อก่อนยังไม่ฮิตแต่ในปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมเป็นที่ฮิตกันจำนวนมากเลยเพราะศิลปะเป็นงานสร้างสรรค์ อาจจะหาเครื่องประดับต่างๆมาตกแต่งเพื่อเป็นไอเดียสร้างสรรค์ก็ได้ อาจจะเคยเห็นตามตลาดนัดที่มีกิ๊บติดผมเป็นรูปสัตว์ต่างๆอันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เค้าสร้างสรรค์และผลิตออกมาขายเพื่อให้เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของใครหลายๆคนได้อีกด้วย

               และในปัจจุบันนี้ธุรกิจเกี่ยวกับด้านศิลปะนั้นเป็นเรื่องที่เราควรที่จะให้ความสนใจกันอย่างมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งเลย ศิลปะนั้นจะทำให้เราเป็นคนที่มีจิตใจเย็น และเป็นคนที่รู้จักที่จะเสียสละเชื่อว่าศิลปะจะทำให้คนเราเป็นคนที่เก่งขึ้นและเป็นคนที่ลดความใจร้อนในตนเองได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

               บางคนไม่มีสมาธิก็ลองมาฝึกศิลปะ การฝึกวาดภาพจากศิลปะนั้นจะช่วยให้เรานั้นแข็งแรงมีความคิดมีสติปัญญาที่มากมายกว่าเดิมและอาจจะเกิดไอเดียใหม่ๆที่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกก็เป็นได้ ทุกเรื่องราวจึงเป็นเรื่องที่ดีและสำคัญอย่างมากที่สุดอีกด้วย เราควรที่จะหันกลับมามองในเรื่องของศิลปะให้มากๆยิ่งมองศิลปะมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีแก่ตนเองมากยิ่งขึ้นเท่านั้นด้วย

ศิลปะ

ศิลปะเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามในสมัยนี้

ศิลปะในปัจจุบันนี้นั้นเป็นเรื่องที่เราควรที่จะให้ความสนใจและใส่ใจอย่างมากที่สุดเพราะว่าศิลปะนั้นเป็นเรื่องที่ใครหลายๆคนสนใจและให้ความใส่ใจอย่างมากที่สุดเรื่องของศิลปะนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ การที่เรามีจินตนาการนั้นจะทำให้เราเองเกิดเรื่องที่ทำให้เรานั้นภูมิใจได้อย่างมากที่สุดด้วย

ศิลปะจะทำให้เรานั้นเก่งมีสมาธิที่ดีมากขึ้นทำให้เราไม่ต้องใจร้อน มีสมาธิและใจเย็นกับสิ่งต่างๆที่จะมารบกวนใจของเราได้ ศิลปะจะควบคุมสติทำให้เรานั้นเป็นคนที่ใจเย็นและเป็นคนที่มีสติรู้จักที่จะเรียนรู้และใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี การที่เรามีศิลปะในตนเองนั้นคือเรื่องที่ดีที่จะทำให้เราเองประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

               พ่อแม่ส่วนใหญ่อยากที่จะให้ลูกๆนั้นเรียนศิลปะเพราะศิลปะจะทำให้เรานั้นมีจินตนาการที่กว้างไกล สามารถนำผลงานที่เรามีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการขายของหรือช่วยเหลือสังคมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย การใช้ศิลปะนั้นจะช่วยทำให้เราเองนั้นเป็นคนที่ดึงดูดจินตนาการหรือความนึกคิดที่มีในตนเองมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมากที่สุด

               ศิลปะไม่ได้ทำให้คนเสื่อมเสีย แต่ศิลปะสามารถสร้างไอเดียหรือทำให้จินตนาการหรือฝีมือของเรานั้นออกมาในรูปแบบที่ดูดีและดูเด่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เรื่องต่างๆนั้นของศิลปะเป็นเรื่องที่เราเองจะต้องใส่ใจอย่างมากเพื่อให้ทุกๆอย่างนั้นเป็นเรื่องที่ดูไม่แย่

               ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นสามารถที่จะนำเอาความสามารถของตัวเองที่มีอยู่นี้มาต่อยอดทำให้ชีวิตของเรานั้นเก่งและดีมากยิ่งขึ้นไปด้วย หลายๆคนที่ไม่เก่งเรื่องของศิลปะแต่ก็ชอบศิลปะก็มี คนที่ไม่ชอบศิลปะแต่จำเป็นต้องใช้นั้นก็จะต้องหมั่นหาที่เรียนเพิ่มเพื่ออนาคตของตนเองอีกด้วย

ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะศิลปะจะทำให้เรามีสติและมีสมาธิที่มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย ทุกๆอย่างในเรื่องของจินตนาการนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญหากเรามีจินตนาการที่ดีก็สามารถสื่อสารออกมาจากทางภาพวาด หรือทำออกมาในรูปแบบต่างๆได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ศิลปะในปัจจุบันยังสามารถที่จะนำมาช่วยเหลือสังคมได้เพราะว่าจินตนาการของเรานั้นสามารถนำมาประมูลให้เป็นเงินได้เพื่อให้เรามีรายได้เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆได้อย่างมากที่สุดด้วย

งานศิลปะ

ฝึกจิตให้สงบด้วยงานศิลปะ

ปัจจุบันนี้การอยู่ในสังคมที่ยุ่งเยิงได้สร้างความสับสนให้กับจิตใจของคนเราเป็นอย่างมาก ในแต่ละวันจิตใจจะต้องรับรู้รับฟังเรื่องราวมากมาย จนทำให้จิตใจเกิดความฟุ้งซ่าน ซึ่งหากจิตใจมีความฟุ้งซ่านเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จิตที่เข้มแข็งจะเกิดความเหมื่อยล้าและอ่อนแอลงเรื่อย ๆ จนเข้าสู่ภาวะที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้า ที่เป็นต้นกำเนิดของการคิดฆ่าตัวตายที่เกิดขึ้นมากในสังคม ดังนั้นก่อนที่จิตจะเกิดการฟุ้งซ่านจนไม่สามารถควบคุมได้ เราต้องรู้จักฝึกจิตให้สงบ ซึ่งวันนี้เรามีวิธีการฝึกจิตด้วยงานศิลปะ

               งานศิลปะที่สามารถนำมาใช้การฝึกจิตให้สงบได้นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นงานฝีมือระดับมืออาชีพหรืองานศิลปะที่มีต้นทุนที่แพง แต่งานศิลปะทุกอย่างล้วนสามารถช่วยในการฝึกจิตให้สงบได้เท่านั้น โดยหลักในการเลือกให้เลือกงานที่ตัวท่านเองมีความชื่นชอบและสามารถทำได้ เช่น การปักผ้า การวาดรูประบายสี การเขียนบทกลอนบทกวี การถ่ายรูป การร้องเพลง การเล่นดนตรี การเย็บปักถักร้อย การทำอาหาร การทำขนม การปลูกไม้ดัด เป็นต้น ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นงานที่ต้องใช้ศิลปะในการสร้างสรรค์ผลงานออกมา

               การเลือกเอางานที่ชอบมาเป็นใช้ในการฝึกจิตจะทำให้เราสามารถควบคุมจิตใจให้จดจ่ออยู่กับงานดังกล่าวได้นานขึ้น ทำให้จิตมีสมาธิอยู่กับงานตรงหน้า ไม่ฟุ้งซ่านคิดเรื่องโน้น คิดเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อย เพราะการคิดอย่างไร้สาระเช่นนี้ หากคิดรวมกับการจินตนาการในทางลบอาจจะทำให้มุมมองเห็นแต่ปัญหาและความเดือดร้อน แต่หากคิดในแง่บวก มองเห็นปัญหาและทางแก้ไขย่อมดี แต่คนส่วนมากมักจะคิดไปทางลบเสียมากกว่า หากในช่วงเวลาการคิดนั้น จิตมีความฟุ้งซ่าน ไม่มีสมาธิในการพิจารณาที่ดี ดังนั้นการหางานศิลปะที่ตนเองมีความชอบมาทำ และจดจ่ออยู่กับงานตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไปต่อครั้ง ก็จะช่วยฝึกจิตให้มีความสงบมากขึ้น มีสติในการใช้ชีวิต สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

               ดังนั้นทุกวันหรือทุกอาทิตย์ เพื่อเป็นการฝึกจิตที่ฟุ้งซ่านกับสิ่งที่มากระทบรอบกาย ทุกคนควรที่จะหางานศิลปะมานั่งทำ เพื่อเป็นการฝึกจิตให้มีสงบและมีสมาธิมากขึ้น งานศิลปะทุกชนิดมีข้อดีทั้งสิ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกงานแบบไหนมาทำก็จะช่วยให้จิตใจของคุณสงบ เยือกเย็นได้ แม้ความสงบที่ได้จะเป็นแบบชั่วครู่ แต่ก็สามารถช่วยพัฒนาจิตใจให้เข้มแข็งพร้อมต่อสู้กับปัญหาที่เผชิญได้อย่างมั่นคง